‘หมาล่า’ อาหารเผ็ดร้อนที่ยังฮอตไม่หยุด ด้วยรสเผ็ดซี้ดที่ถูกใจคนไทย แต่รู้หรือไม่ว่า ‘หมาล่า’ ไม่ใช่พริก แต่เป็นผงเครื่องเทศหลายอย่างผสมกัน และรสชาติเผ็ดชาที่โดดเด่นนั้นเกิดจากส่วนผสมที่ชื่อว่า ‘ฮวาเจียว’
‘ฮวาเจียว’ เป็นเครื่องเทศรสเผ็ดชา รูปร่างคล้ายเม็ดพริกไทยดำ มีกลิ่นฉุนติดจมูก มีถิ่นกำเนิดในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ดินแดนที่นิยมกินอาหารรสเผ็ดร้อน ฮวาเจียวทำให้ ‘หมาล่า’ มีความเผ็ดล้ำระดับที่เรียกว่า “เผ็ดจนลิ้นชา” สมกับชื่อ เพราะคำว่า “หมา” หมายถึง อาการชาที่ปลายลิ้น ในขณะที่คำว่า “ล่า” หมายถึง รสชาติเผ็ด นั่นเอง
สำหรับชาวจีนในมณฑลเสฉวนแล้ว หมาล่าสามารถนำไปประกอบอาหารได้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ต้ม ผัด แกง ทอด ย่าง โดยนิยมปรุงเนื้อแกะ เพราะสามารถดับกลิ่นสาบได้อย่างดีเยี่ยม และชูรสชาติของวัตถุดิบต่างๆ ให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น
ภายใต้รสความเผ็ดชาแบบหมาล่า มีคุณอนันต์และสรรพคุณทางยาซ่อนอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นช่วยขับลมในกระเพาะและลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น มีธาตุเหล็กสูง บำรุงเลือด ธาตุสังกะสีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และยังอุดมด้วยโพแทสเซียม ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อรา แก้อักเสบ และกลิ่นที่หอมฉุน สูดดมบรรเทาอาการวิงเวียน คัดจมูกได้เป็นอย่างดี
เมื่อรู้ถึงที่มาและประโยชน์มากมายที่ซ่อนอยู่ในความเผ็ดชาของหมาล่ากันแล้ว ใครอยากท้าความเผ็ดนี้
เราชี้เป้าให้ไปลองได้ที่ร้านต่อไปนี้
ชาบูหมาล่าสัญชาติจีน คนที่อยากรู้ว่าต้นตำรับเผ็ดชาของจริงเป็นแบบไหน ต้องเริ่มจากร้านนี้
สาย Hot Pot ขอส่ง ‘Envy’ ซุปหมาล่าเผ็ดปากชาไม่แพ้กัน
สุกี้พรีเมียมก็ขอแซ่บ ซี้ด ชา! เปิดตัวน้ำซุปหมาล่าที่มาพร้อมชุดสไปซีหมาล่าเนื้อ US Prime
ร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวนต้นกำเนิดหมาล่า ต้องลอง ‘ต้มปลาผักกาดดอง’ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อนของหมาล่า
จัดเต็มความเผ็ดชา 5 เมนู ไก่ทอดหมาล่า, หนังไก่ทอดหมาล่า, ซุปหมาล่ากิมจิ, ข้อไก่ทอดหมาล่า และหนวดปลาหมึกหมาล่า
มาถึงตรงนี้ ใครชอบกินอาหารรสเผ็ด แต่ยังไม่เคยลิ้มลองรสหมาล่า คงต้องหาโอกาสไปสัมผัสความเผ็ดลิ้นชากันสักหน่อยแล้วล่ะ